เนื่อจากโปรแกรม appserv-win32-2.5.7 เป็นซ็อฟแวร์ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีโดยไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้นจึง
หมาะที่จะนำมาเป็นซอฟร์แวร์ในการทดสอบหรือใช้งานเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้เป็นอย่างดีซ
่งเราสามารถดาวน์โหลดตัวโปรแกรมได้ที่
http://prdownloads.sourceforge.net/appserv....7.exe?download
หรือดาวน์โหลดเวอชั่นที่ใหม่กว่าได้ที่ http://www.appservnetwork.com/
1.เริ่มการติดตั้ง เมื่อเราดาวน์โหลดมาเรียบร้อยจะได้ไฟล์โปรแกรมชื่อ appserv-win32-2.5.7.exe ดังรูปที่ 1

2.ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ appserv-win32-2.5.7.exe เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรมจะปรากฏหน้าจอดัง รูปที่ 2 ให้คลิกที่ ปุ่ม Next เพื่อทำต่อไป

3.รูปที่ 3 คลิกปุ่ม I Agree เพื่อยืนยันการติดตั้งโปรแกรม

4. รูปที่ 4 เลือกตำแหน่งที่ใช้ในการติดตั้งโปรแกรมในที่นี้ใช้ C:\AppServ ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งกันตำแหน่งนี้ แต่ก็ไม่จำเป็นอาจติดตั้งในตำแหน่งอื่นก็ได้เช่นในไดร์ฟ D :\ ก็ไม่ผิด จากนั้นต่อที่คลิกปุ่ม Next เพื่อทำต่อไป

5.รูปที่ 5 เลือกว่าจะติดตั้งอะไรลงไปบ้าง ในที่นี้เลือกทั้งหมด จากนั้นคลิกปุ่ม Next เพื่อทำต่อไป

6. รูปที่ 6 ตั้งชื่อให้เซิร์ฟเวอร์ในที่นี้ใช้ localhost อาจใช้เป็น IP ได้เช่นกัน เช่น 127.0.0.1 ก็คือ IP ของเครื่องซึ่งใช้เรียกตัวเอง หรือจะเป็น 192.118.1.3 คือ IP ในวงแลนด์ ใช้เรียกภายในวงแลนด์ หรือเป็น 203.158.177.9(ไอพีเครื่องผู้เขียน) เป็น IP ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ใช้เรียกผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นต้น จากนั้นตั้งชื่ออีเมล์ ถ้าแค่ทดสอบในเครื่องใช้อีเมล์หลอกๆได้ และทำการกำหนดพอร์ตในการเรียกใช้งานโปรแกรมปกติกำหนดเป็น 80 หากโปรแกรมอื่นมีการใช้งานพอร์ต 80 ไปแล้วเราอาจเรี่ยงมาใช้พอร์ต 8080 เช่นได้กัน หรือพอร์ตอื่นที่ให้บริการ HTTP

7. รูปที่ 7 ทำการตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้ MySQL Server ส่วนชื่อเข้าใช้นั้นโปรแกรมจะตั้งมาให้เป็น root เสมอเมื่อใส่รหัสผ่านแล้วให้ใส่รหัสผ่านอีกครั้งเพื่อยืนยันความถูกต้องของ รหัสและทำ
ารเลือกภาษาที่ใช้กับ MySQL Server แล้วคลิกปุ่ม Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม appserv

8. รูปที่ 8 โปรแกรมจะเริ่มขั้นตอนการติดตั้งไฟล์โปรแกรมลงในเครื่องที่จำลองเป็นเซิร์ฟเวอร์หลัง
ากคลิกปุ่ม Install ไป รอจนกว่าโปรแกรมจะติดตั้งสมบูรณ์

9. รูปที่ 9 เมื่อติดตั้งเสร็จสมบูรณ์จะขึ้นหน้าจอนี้ขึ้นมาเพื่อให้คลิกถูกข้างหน้า Start Apache และ Start MySQL หากไม่คลิกถูกข้างหน้าเมื่อคลิกปุ่ม Finish โปรแกรมจะไม่รันทันทีแต่หากเปิดเครื่องใหม่โปรแกรมจะรันตัวเองให้ทำงานทุก ครั้งเพื่อ
ำหน้าที่เป็น Web Server และ Mysql Server ในที่นี้คลิกถูกทั้งสองอย่างเพื่อจะได้ทดสอบว่าติดตั้งสำเร็จหรือไม่ต่อไป

การใช้ phpMyAdmin จัดการฐานข้อมูล MySQL
การ จัดการฐานข้อมูล MySQL นั้นตามจริงแล้วเราอาจจะใช้โปรแกรมอื่นๆจัดการได้เช่นเดียวกับ phpMyAdmin เช่นโปรแกรม MySQL Front หรือ SQL yog เป็นต้น แต่เพื่อในที่นี้จะพูดถึงการใช้ phpMyAdmin เพราะเป็นตัวจัดการที่ใช้บ่อยที่สุดในการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีต้นทุนออ นไลน์นั้นได้
ช้ MySQL Front ในบางครั้งเพื่อความรวดเร็วในการจัดการข้อมูล
1.รูปที่ 10 ทดสอบเรียกเว็บจาก URL Address ดังนี้คือ http://127.0.0.1 หรือ http://localhost ก็ได้ จะปรากฏหน้าตาดังรูป ให้คลิกที่ phpMyAdmin Database Manager เวอร์ชั่น 2.9.0.2 จะปรากฏบล็อกแสดงขึ้นมาให้ใส่ ชื่อและรหัสเข้าใช้งาน phpMyAdmin เพื่อจัดการฐานข้อมูล

2. รูปที่ 11 การสร้างฐานข้อมูล ทำการเลือกภาษาที่ใช้กับข้อมูล ใส่ชื่อฐานข้อมูล และคลิกปุ่ม สร้าง

3.รูปที่ 12 การสร้างตารางในฐานข้อมูลโดยตั้งชื่อตาราง ใส่จำนวนคอลัมน์ที่ต้องการให้มีในตาราง

4. รูปที่ 13 การสร้างคอลัมน์และการตั้งชื่อและชนิดข้อมูล ซึ่งสามารถกำหนดชนิดของข้อมูล ความยาว และว่างเปล่าได้หรือไม่ กำหนดคีย์หลัก กำหนดดรรชนี

5. รูปที่ 14 เมื่อคลิกปุ่มลงมือโปรแกรมจะจัดการสร้างตารางให้ดังนี้

6. รูปที่ 15 ปุ่มเมนูใช้จัดการข้อมูลใน phpMyAdmin ซึ่งใช้ในการเปิดดูข้อมูล ดูโครงสร้างข้อตารางข้อมูล เขียนคำสั่ง SQL แบบ command line ค้นหาข้อมูลในตาราง แทรกแถวข้อมูลใหม่ ส่งออกฐานข้อมูล และนำเข้าฐานข้อมูล ลบข้อมูล โยนทิ้งฐานข้อมูล

ผมขออธิบายมาถึงตรงนี้นะครับ ที่เหลือก็ไม่ใช้เรื่องอย่างที่จะลองเล่นดูด้วยตัวเองแล้วนะครับ มีปัญหาสงสัยอะไรก็เข้ามาถามได้ครับ...
บทความนี้เขียนโดย Thainetdev.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น