If you attempt to address a new message from your Contacts, you may receive the following error message:
“ The address list could not be displayed. The Contacts folder associated with this address list could not be opened; it may have been moved or deleted, or you do not have permissions. For information on how to remove this folder from the Outlook Address Book, see Microsoft Outlook Help.”
This behavior can occur if the Microsoft Outlook Address Book is damaged.
To resolve this issue, remove and reinstall the Outlook Address Book. To do this:
1.Start Outlook.
2.On the Tools menu, click E-mail Accounts.
3.Click View or change existing directories or address books, and then click Next.
4.Click Outlook Address Book, and then click Remove.
5.Click Yes when you receive the prompt to confirm the removal.
6.Click Add.
7.Click Additional Address Books, and then click Next.
8.Click Outlook Address Book, and then click Next.
9.Click OK when you receive the message to restart Outlook.
10.Click Finish.
11.Click Exit on the File menu to quit Outlook.
12.Restart Outlook.
13.In the Folder list, right-click the folder that you want to use with the Address Book (for example, right-click Contacts), and then click Properties.
14.Click the Outlook Address Book tab.
15.Click to select the Show this folder as an e-mail Address Book check box (if it is not already selected), and then click OK.
วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552
รายการของแป้นพิมพ์ลัดที่มีใน Windows XP
แป้มพิมพ์ลัดทั่วไป
CTRL+C (คัดลอก)
CTRL+X (ตัด)
CTRL+V (วาง)
CTRL+Z (ยกเลิก)
DELETE (ลบ)
SHIFT+DELETE (ลบรายการที่เลือกอย่างถาวรโดยไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin)
กดปุ่ม CTRL ขณะที่ลากรายการ (คัดลอกรายการที่เลือก)
กดปุ่ม CTRL+SHIFT ขณะที่ลากรายการ (สร้างทางลัดไปยังรายการที่เลือก)
ปุ่ม F2 (เปลี่ยนชื่อรายการที่เลือก)
CTRL+ ลูกศรขวา (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำถัดไป)
CTRL+ ลูกศรซ้าย (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำก่อนหน้า)
CTRL+ ลูกศรลง (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าถัดไป)
CTRL+ ลูกศรขึ้น (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าก่อนหน้าไป)
CTRL+SHIFT พร้อมกับปุ่มลูกศรใดๆ (ไฮไลต์บล็อกข้อความ)
SHIFT พร้อมด้วยปุ่มลูกศรใดๆ (เลือกมากกว่าหนึ่งรายการในหน้าต่างทำงานหรือบนเดสก์ทอป หรือเลือกข้อความในเอกสาร)
CTRL+A (เลือกทั้งหมด)
ปุ่ม F3 (ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์)
ALT+ENTER (ดูคุณสมบัติต่างๆ ของรายการที่เลือก)
ALT+F4 (ปิดรายการที่ใช้งานอยู่ หรือปิดโปรแกรมที่ใช้งาน)
ALT+ENTER (แสดงคุณสมบัติของออบเจกต์ที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูทางลัดสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+F4 (ปิดเอกสารที่ใช้งานอยู่ในโปรแกรมที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดเอกสารหลายเอกสารได้พร้อมกัน)
ALT+TAB (สลับระหว่างรายการต่างๆ ที่เปิดอยู่)
ALT+ESC (สลับไปยังรายการต่างๆ ตามลำดับที่เปิด)
ปุ่ม F6 (สลับไปตามรายการอิลิเมนต์บนหน้าจอในหน้าต่างหรือบนเดสก์ทอป)
ปุ่ม F4 (แสดงรายการแอดเดรสบาร์ใน My Computer หรือ Windows Explorer)
SHIFT+F10 (แสดงเมนูทางลัดสำหรับรายการที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูระบบสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+ESC (แสดงเมนู Start)
ALT+อักษรขีดเส้นใต้ในชื่อเมนู (แสดงเมนูนั้นๆ)
อักษรที่ขีดเส้นใต้ในชื่อคำสั่งบนเมนูที่เปิด (ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ)
ปุ่ม F10 (เปิดแถบเมนูในโปรแกรมที่กำลังใช้งาน)
ลูกศรขวา (เปิดเมนูถัดไปทางขวา หรือเปิดเมนูย่อย)
ลูกศรซ้าย (เปิดเมนูถัดไปทางซ้าย หรือปิดเมนูย่อย)
ปุ่ม F5 (อัปเดทหน้าต่าง)
BACKSPACE (ดูโฟลเดอร์ย้อนขึ้นหนึ่งระดับใน My Computer หรือ Windows Explorer)
ESC (ยกเลิกงานปัจจุบัน)
กดปุ่ม SHIFT ขณะที่ใส่แผ่นซีดีรอมลงในไดรฟ์ซีดีรอม (ป้องกันไม่ให้ซีดีรอมเล่นโดยอัตโนมัติ)
CTRL+SHIFT+ESC (เปิด Task Manager)
CTRL+C (คัดลอก)
CTRL+X (ตัด)
CTRL+V (วาง)
CTRL+Z (ยกเลิก)
DELETE (ลบ)
SHIFT+DELETE (ลบรายการที่เลือกอย่างถาวรโดยไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin)
กดปุ่ม CTRL ขณะที่ลากรายการ (คัดลอกรายการที่เลือก)
กดปุ่ม CTRL+SHIFT ขณะที่ลากรายการ (สร้างทางลัดไปยังรายการที่เลือก)
ปุ่ม F2 (เปลี่ยนชื่อรายการที่เลือก)
CTRL+ ลูกศรขวา (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำถัดไป)
CTRL+ ลูกศรซ้าย (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำก่อนหน้า)
CTRL+ ลูกศรลง (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าถัดไป)
CTRL+ ลูกศรขึ้น (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าก่อนหน้าไป)
CTRL+SHIFT พร้อมกับปุ่มลูกศรใดๆ (ไฮไลต์บล็อกข้อความ)
SHIFT พร้อมด้วยปุ่มลูกศรใดๆ (เลือกมากกว่าหนึ่งรายการในหน้าต่างทำงานหรือบนเดสก์ทอป หรือเลือกข้อความในเอกสาร)
CTRL+A (เลือกทั้งหมด)
ปุ่ม F3 (ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์)
ALT+ENTER (ดูคุณสมบัติต่างๆ ของรายการที่เลือก)
ALT+F4 (ปิดรายการที่ใช้งานอยู่ หรือปิดโปรแกรมที่ใช้งาน)
ALT+ENTER (แสดงคุณสมบัติของออบเจกต์ที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูทางลัดสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+F4 (ปิดเอกสารที่ใช้งานอยู่ในโปรแกรมที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดเอกสารหลายเอกสารได้พร้อมกัน)
ALT+TAB (สลับระหว่างรายการต่างๆ ที่เปิดอยู่)
ALT+ESC (สลับไปยังรายการต่างๆ ตามลำดับที่เปิด)
ปุ่ม F6 (สลับไปตามรายการอิลิเมนต์บนหน้าจอในหน้าต่างหรือบนเดสก์ทอป)
ปุ่ม F4 (แสดงรายการแอดเดรสบาร์ใน My Computer หรือ Windows Explorer)
SHIFT+F10 (แสดงเมนูทางลัดสำหรับรายการที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูระบบสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+ESC (แสดงเมนู Start)
ALT+อักษรขีดเส้นใต้ในชื่อเมนู (แสดงเมนูนั้นๆ)
อักษรที่ขีดเส้นใต้ในชื่อคำสั่งบนเมนูที่เปิด (ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ)
ปุ่ม F10 (เปิดแถบเมนูในโปรแกรมที่กำลังใช้งาน)
ลูกศรขวา (เปิดเมนูถัดไปทางขวา หรือเปิดเมนูย่อย)
ลูกศรซ้าย (เปิดเมนูถัดไปทางซ้าย หรือปิดเมนูย่อย)
ปุ่ม F5 (อัปเดทหน้าต่าง)
BACKSPACE (ดูโฟลเดอร์ย้อนขึ้นหนึ่งระดับใน My Computer หรือ Windows Explorer)
ESC (ยกเลิกงานปัจจุบัน)
กดปุ่ม SHIFT ขณะที่ใส่แผ่นซีดีรอมลงในไดรฟ์ซีดีรอม (ป้องกันไม่ให้ซีดีรอมเล่นโดยอัตโนมัติ)
CTRL+SHIFT+ESC (เปิด Task Manager)
วิธีการล้างขยะของวินโดส์ XP ทุกครั้งที่ Shutdown
ปกติคุณใช้วินโดวส์ไม่ว่าจะเปิดทำงานหรือท่องเน็ต เมื่อเลิกใช้แล้วมันจะทิ้งขยะไว้ให้ตลอด เมื่อ Shutdown มันก็ยังค้างอยู่ไม่หายไปไหน แต่ผมที่วิธีที่จะช่วยคุณๆ ให้ Shutdown แล้วล้างขยะพวกนี้ไม่ให้มากินพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ โดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมใดๆ เพียงใช้ของที่มีอยู่ในวินโดวส์ให้เป็นประโยชน์ โดยใช้คำสั่งของดอสบวกกับ Group Policy ของวินโดวส์ ไปเริ่มกันเลย
- ให้คุณเปิด Notepad ขึ้นมาแล้วสร้าง batch file โดยพิมพ์ตามนี้
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\User name\Local Settings\History"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\Default User\Local Settings\History"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\User name\Local Settings\Temp"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\Default User\Local Settings\Temp"
***ตรง "User name" ให้แทนด้วยชื่อ Account ของคุณที่ใช้ในวินโดวส์
******คุณสามารถเพิ่มคำสั่งให้ลบไฟล์ Temp file ที่ไดร์ฟอื่นๆ ได้ เช่น Temp ไฟล์อยู่ที่ไดร์ฟ D ก็พิมพ์คำสั่งเพิ่มดังนี้RD /S /Q "D:\TEMP\"
- เซฟไฟล์ให้เป็น .BAT ในที่นี้ผมตั้งชื่อว่า deltemp.bat และเก็บไว้ที่ C:\
- เมื่อทำตามข้อ 1 และ 2 เสร็จแล้วพักไว้ มาเปิด Group Policy โดยไปที่ Start>Run พิมพ์คำว่า gpedit.msc คลิก OK
- จะมีหน้าต่าง Group Policy ให้คลิกที่ Computer Configuration > Windows Setting > Scripts (Startup/Shutdown) และดับเบิลคลิกที่ Shutdown ที่หน้าต่างขวามือ
- จะมีหน้าต่าง Shutdown Properties ออกมาให้คลิกที่ Add
- ที่หน้าต่าง Add a Script ให้คุณ Browse.. หา Batch file ที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ คลิก OK และ OKอันเป็นเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ทุกครั้งที่คุณ shutdown เครื่อง คอมคุณก็จะไม่มีไฟล์ขยะในฮาร์ดดิสก์คุณอีก
- ให้คุณเปิด Notepad ขึ้นมาแล้วสร้าง batch file โดยพิมพ์ตามนี้
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\User name\Local Settings\History"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\Default User\Local Settings\History"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\User name\Local Settings\Temp"
RD /S /Q "C:\Documents and Settings\Default User\Local Settings\Temp"
***ตรง "User name" ให้แทนด้วยชื่อ Account ของคุณที่ใช้ในวินโดวส์
******คุณสามารถเพิ่มคำสั่งให้ลบไฟล์ Temp file ที่ไดร์ฟอื่นๆ ได้ เช่น Temp ไฟล์อยู่ที่ไดร์ฟ D ก็พิมพ์คำสั่งเพิ่มดังนี้RD /S /Q "D:\TEMP\"
- เซฟไฟล์ให้เป็น .BAT ในที่นี้ผมตั้งชื่อว่า deltemp.bat และเก็บไว้ที่ C:\
- เมื่อทำตามข้อ 1 และ 2 เสร็จแล้วพักไว้ มาเปิด Group Policy โดยไปที่ Start>Run พิมพ์คำว่า gpedit.msc คลิก OK
- จะมีหน้าต่าง Group Policy ให้คลิกที่ Computer Configuration > Windows Setting > Scripts (Startup/Shutdown) และดับเบิลคลิกที่ Shutdown ที่หน้าต่างขวามือ
- จะมีหน้าต่าง Shutdown Properties ออกมาให้คลิกที่ Add
- ที่หน้าต่าง Add a Script ให้คุณ Browse.. หา Batch file ที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ คลิก OK และ OKอันเป็นเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ทุกครั้งที่คุณ shutdown เครื่อง คอมคุณก็จะไม่มีไฟล์ขยะในฮาร์ดดิสก์คุณอีก
วิธีการตั้งเวลา Shutdown วินโดวส์
วิธีการตั้งเวลา Shutdown วินโดวส์ แบบอัตโนมัติ (XP) เรามีวิธีการสั่งให้วินโดส์ Shut Down อัตโนมัติโดยไม่ต้องนั่งรอ อาทิกรณีสั่งเครื่องทำการ Defragment เราไม่จำเป็นมานั่งรอเพื่อค่อยปิดเครื่อง หรือกรณีมีธุระต้องออกไปข้างนอกแล้วไม่แน่ใจว่าจะกลับเข้ามาที่ Office หรือไม่ เทคนิคนี้ช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ
- คลิกขวาพื้นที่ว่างๆ บน desktop แล้วเลือกคำสั่ง New > Shortcut - ที่หน้าต่าง Create Shortcut ที่ปรากฏขึ้น พิมพ์คำสั่ง SHUTDOWN -s -t 01 ลงในช่อง Type the location of the item แล้วคลิก Next
- ตั้งชื่อให้กับ Shorcut เช่น Windows Shutdown คลิก Finish จะปรากฎไอคอน Shorcut ที่คุณสร้างขึ้น
- ต่อไปคลิกที่ปุ่ม Start > Programs > Accessories > System Tools > Scheduled Tasks แล้วดับเบิลคลิกที่ Add Scheduled Taskจะปรากฏ Scheduled Task Wizard กด Next
- ในหน้าต่างนี้จะปรากฏรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ให้คุณเลือก แต่ในที่นี้ให้คุณคลิกที่ปุ่ม Browse เพื่อทำการเลือกไอคอนที่ได้สร้างไว้เมื่อครู่
- คลิกหาไอคอนที่สร้างไว้ (กดที่ปุ่ม Desktop ด้านซ้ายมือ) เมื่อพบแล้วให้คลิกเลือกตามด้วยคลิกปุ่ม Open
- กำหนดว่าต้องการให้โปรแกรมรันไอคอน Shutdown อย่างไร ในที่นี้ต้องการให้รันเฉพาะครั้งนี้ครั้งเดียวก็เลือกออปชั่น One time only แล้วคลิก Next
- กำหนดวันที่และเวลาที่ต้องการให้โปรแกรมเริ่มรันไอคอน Shutdown ให้เรียบร้อยแล้วคลิก Next- คลิกที่ปุ่ม Finish แล้ว คุณจะไปไหนก็ เครื่องจะปิดอัตโนมัติให้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)